ทำไมต้องซีลสินค้า??
ก่อนจะพาทุกคนไปรู้เหตุผล เราจะขออธิบายก่อนนะคะว่าซีลสินค้าคืออะไร การซีลสินค้านั้นมักนิยมเรียกกันว่า ''การชริ้งฟิล์มหด''
ฟิล์มหดคือ พลาสติกที่ได้รับการละลายด้วยความร้อน ณ อุณหภูมิที่ถูกกำหนดไว้ก็จะทำให้ฟิล์มนี้มีการหดตัวตามลักษณะของแพคเกจจิ้งที่ห่อด้วยฟิล์มหดนี้ เราจึงเรียกกันว่า ฟิล์มหด โดยการนำสินค้าที่ห่อฟิล์มหดแล้ว ไปเข้าเครื่องอบความร้อน หรือการเป่าด้วยไดร์ความร้อน ซึ่งหากเครื่องเป่ามีคุณภาพที่สูง ก็สามารถเป่าฟิล์มหดให้ออกมามีความหนาบาง ความใสได้ตามที่ต้องการ
ต่อมาเราจะมาพูดถึงประเภทของฟิล์มหดกัน โดยฟิล์มหดแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ประโยชน์การใช้งานก็จะต่างกัน อาทิเช่น ความใส ความหนาบาง ความเหนียวของฟิล์ม ความแข็งแรง และความยืดหยุ่น ทั้งนี้ผู้ที่จะนำฟิล์มหดไปใช้ก็ควรพิจารณาสินค้าของตัวเองว่าเหมาะกับฟิล์มชนิดไหน โดย Topic นี้เราจะแบ่งฟิล์มหดเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ POF และ PVC
- POF จุดเด่นคือมีความใส บาง เหนียว เนื้อสัมผัสนุ่ม ฉีกขาดยาก และอ่อนตัวมากที่สุดเมื่อเทียบกับ PVC เป็นฟิล์มที่ด้านในสามารถสัมผัสอาหารได้ เพราะ เป็น Food Grade หรือใช้กับสินค้าแบรนด์เนมชิ้นเดียว เช่น กล่องน้ำหอม ราคาค่อนข้างสูง และมีตะเข็บที่เล็กมาก เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆที่ต้องการความพรีเมี่ยม
- PVC จุดเด่นคือมีความใส หดตัวสูง แต่มีความเปราะ ฉีกขาดได้ง่ายกว่า POF ใช้กับสินค้าชิ้นเดียว เช่น กล่องเครื่องสำอาง หรือสินค้าแพ็คโหลที่มีน้ำหนักเบา มีหลายเกรดราคาต่ำไปถึงสูง หาซื้อได้ง่าย สามารถใช้งานได้หลายประเภท แต่มีข้อเสียคือจะมีตะเข็บหลังจากฟิล์มหดตัว และเมื่อโดนความร้อนจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น
ในการจัดจำหน่ายสินค้าในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ารูปแบบของแพ็คเกจจิ้งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากภาพลักษณ์ที่สวยงามทำให้เกิดการสะดุดตาแล้ว สินค้ายังดูสะอาด ช่วยป้องกันฝุ่นละออง สิ่งสกปรก แสงแดด อุณหภูมิสูง และความชื้นต่างๆ ดูปลอดภัยต่อการใช้งาน ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ ดังนั้นการบรรจุภัณฑ์ต่างๆจึงนิยมที่จะใช้ฟิล์มหด หรือ การซีลพลาสติกให้กับสินค้านั้นเองค่า
.
.
.
"รับบริการงาน make to order โทรปรึกษาได้เลยค่ะ หรือนัดเอางานมาทดลองทำงานตัวอย่างได้ฟรีนะคะ"
Tel.
081-6394286
064-2864966
แล้วหวังว่าจะให้เราเป็นเพื่อนกับธุรกิจของคุณ:)